วิธีเดินหน้ารับมือความผันผวนที่องค์กรต้องเผชิญ

เมื่อองค์กรขยายตัวก็มีเรื่องให้ต้องดูแลใส่ใจมากขึ้น ทั้งเรื่องภายในและภายนอก คุณอาจต้องรับมือกับการบริหารพนักงานที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หรือต้องคอยสังเกตความต้องการของตลาด เพื่อผลิตสินค้าให้อยู่ในปริมาณมากพอที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน คำกล่าวที่ว่า “มากคนก็ยิ่งมากความ” ฟังดูเป็นเรื่องจริง ที่หลายคนต่างต้องเผชิญ แต่ถ้าหากมีวิธีจัดการที่ถูกต้อง ไม่ว่าปัญหาจะยุ่งยากแค่ไหน ก็ไม่ไกลเกินทางออกที่คุณมองหาอย่างแน่นอน

ยอมรับและเข้าใจ ความต้องการที่แตกต่างภายในองค์กร

การมีพนักงานบริษัทจำนวนมาก อาจทำให้คุณต้องหาทางรับมือกับคนจำนวนมหาศาล

ขั้นตอนแรกที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้รับมือกับความต้องการเหล่านั้นได้อย่างราบรื่น

คือการยอมรับและเข้าใจความแตกต่างที่เกิดขึ้นภายในองค์กร ทุกวันนี้สังคมถูกขับเคลื่อนด้วยความหลากหลาย

ทั้งความหลากหลายทางเพศ ความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม ความหลากหลายทางช่วงวัย

ความหลากหลายทางทักษะและความสนใจ และอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งทั้งหมดนั้นได้ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันภายในบริษัทของคุณเพียงที่เดียว

แน่นอนว่าคุณอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเห็นที่แตกต่างได้ หากลองเปลี่ยนมุมมอง

จะพบว่าสิ่งที่มีอยู่คือความเห็นอันหลากหลายที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาธุรกิจ พัฒนาองค์กรสู่จุดที่ดีกว่าเดิมได้

การทำความเข้าใจและยอมรับในความหลากหลายเหล่านี้จะเปลี่ยนให้คุณพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ความผันผวน

บนโลกที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ จุดนี้จะทำให้คุณหาทางรับมือสถานการณ์ท้าทายได้อย่างทันท่วงที

เพราะการผันผวนที่เกิดขึ้นบนโลก อาจส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภค และสร้างผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจ

รวมไปถึงการจัดการบริหารพนักงานในองค์กรด้วย

ความยืดหยุ่นคือกุญแจสำคัญ

ความหลากหลายที่แตกต่างทำให้เราต้องหาทางที่จะรับมือ และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย

กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรผ่านสถานการณ์เหล่านี้ไปได้คือความยืดหยุ่น ยกตัวอย่างเช่นเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Working Hours)

หากองค์กรต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความผันผวนของทางเศรษฐกิจ

หรือความต้องการของตลาดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น จนส่งผลให้บริษัทมีปริมาณที่ลดลงจนน้อยเกินจำนวนพนักงานที่มีอยู่

การให้พนักงานแบ่งงานกันทำ หรือที่เรียกกันว่า Job Sharing

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยพยุงให้บริษัทเดินหน้าฝ่าวิกฤตท้าทายไปได้

โดยอาจมอบหมายให้พนักงานในตำแหน่งหน้าที่เดียวกัน ทำงานชิ้นเดียวกัน วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาการว่างงาน

ทั้งยังลดปัญหาการขาดงาน และการลาออกของพนักงานได้อีกด้วย หรือในกรณีที่บริษัทขาดกำลังคนในการทำงาน

เนื่องจากปริมาณงานล้นมือ การจ้างพนักงานชั่วคราวอย่างเช่นพนักงานพาร์ทไทม์ หรือพนักสัญญาจ้าง

อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการจ้างพนักงานประจำเพิ่มในหลายอัตรา เพราะถ้าหากกระแสความผันผวนย้อนกลับ

ความต้องการของผู้บริโภคลดลงรวดเร็วอย่างไม่คาดฝัน พนักงานหน้าใหม่เหล่านั้นก็อาจต้องว่างงานโดยไม่รู้ตัว

กลายเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่บริษัทต้องแบกรับความเสี่ยงอยู่ฝ่ายเดียว ในทางกลับกัน

การจ้างพนักงานชั่วคราวมีผลภายในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น

พนักงานคุณภาพเหล่านี้คือผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการในขณะนั้นอย่างตรงจุด เมื่อหมดเวลา

และความต้องการของตลาดปรับตัวลงเข้าสู่จุดเดิม บริษัทก็กลับเข้าสู่สภาวะการทำงานในรูปแบบเดิมได้ทันที

วิธีนี้นอกจากจะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดแล้ว

ยังเปิดโอกาสให้บริษัทของคุณได้สร้างคอนเน็กชันกับพนักงานมากความสามารถที่อาจกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทในอนาคตอีกด้วย

สร้างมาตรฐานให้ขั้นตอนการทำเพย์โรล

สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ พนักงานพาร์ทไทม์

พนักงานสัญญาจ้าง หรือจะแบบอื่นๆ การทำบัญชีเงินเดือนอาจเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนชวนปวดหัว

แน่นอนว่าหลายองค์กรที่จะเลือกมอบหน้าที่นี้ให้บริษัท Outsource เพย์โรลเป็นผู้ดูแล

แต่ถึงอย่างนั้นนโยบายการทำบัญชีเงินเดือนที่มีรากฐานแข็งแรงมาจากองค์กรก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปเป็นอันขาด

เพื่อให้พนักงานภายในองค์กรของคุณมั่นใจว่าได้รับค่าตอบแทนอย่างสมเหตุสมผล และเป็นไปตามจำนวนเงินที่ควรได้รับ

การสร้างมาตรฐานให้กับการทำเพย์โรลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น

อย่างเช่นการเสียพนักงานคุณภาพให้กับบริษัทคู่แข่ง

เกณฑ์การจัดการค่าตอบแทนที่ถูกกำหนดขึ้นจะเข้ามาช่วยดูแลจัดการระบบให้เป็นไปอย่างเป็นกลาง

ลดการเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย ใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำบัญชีเงินเดือนได้อย่างดีเยี่ยม