จำนวนเงินเดือนและเนื้องาน อาจไม่ใช่ปัจจัยที่จะซื้อใจพนักงานของคุณให้ร่วมงานกับบริษัทได้นานๆ เสมอไป เพราะถ้าหากหมดใจ หมดไฟในการทำงาน ก็คงไม่สามารถดึงเอาศักยภาพสูงสุดออกมาได้อย่างเต็มที่ เกิดเป็นภาวะเบื่อ อิ่มตัวในการทำงานซ้ำซากจำเจ ท้ายที่สุดคงจบลงที่การยื่นใบลาออก ซึ่งก็จะส่งผลให้บริษัทต้องเสียบุคลากรคุณภาพให้กับองค์กรคู่แข่งแห่งอื่นๆ และต้องใช้เวลาในการเฟ้นหาพนักงานคนใหม่มาแทนที่ แน่นอนว่ากว่าจะปรับตัวให้เข้ากันได้คงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งหนึ่งที่องค์กรสามารถทำได้เพื่อยึดเหนี่ยวและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้พนักงานคือการสร้างความผูกพันของพนักงานที่มีต่องานและองค์กร ความผูกพันนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Employee Engagement หมายรวมถึงสภาวะทางจิตใจ อารมณ์ และความรู้สึก ทั้งหมดนี้ถือเป็นแรงจูงใจภายในที่สำคัญ ก่อให้เกิดเป็นความกระตือรือร้น เติมไฟในการทำงานให้พนักงานของคุณทุ่มเททำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
แม้ว่าธุรกิจของคุณอาจมีกลยุทธ์ หรือโมเดลธุรกิจที่ผ่านการคิดและออกแบบมาอย่างดี แต่หากปราศจากกำลังพลหลักอย่างพนักงานก็คงไม่สามารถพาธุรกิจไปสู่เป้าหมายตามที่ตั้งไว้ได้ เชื่อหรือไม่ว่าหัวใจอย่างหนึ่งของการพัฒนาองค์กรก็คือ Employee Engagement หรือ ความรู้สึกผูกพันต่องานที่ทำและองค์กรนี้เองที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นพฤติกรรมเชิงบวก ที่จะช่วยผลักดันพนักงานให้มีทัศนคติการทำงานที่ดี มั่นคงต่อการทำงานอย่างยาวนานต่อเนื่องในองค์กรแห่งเดิมโดยไม่เปลี่ยนใจลาออกไปหาบริษัทแห่งอื่น แม้อาจได้รับข้อเสนอก็ตาม ที่สำคัญที่สุดคือการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ตามกำลังความสามารถที่มี ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือความสำเร็จซึ่งอาจอยู่เหนือเกินว่าความคาดหวังที่ตั้งไว้ก็เป็นได้
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างถูกปรับเปลี่ยนในมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์นี้เอง หลายๆ องค์กรต่างก็เริ่มหาทางปรับตัว มองหาวิธีการใหม่ๆ ในการสร้าง Employee Engagement ผ่านแพลตฟอร์มและวิธีการออนไลน์ทั้งหลายที่มี ทั้งหมดก็เพื่อลงทุนรักษาไม่ให้ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรลดน้อยจางหายไป นี่คือวิธีการสร้าง Employee Engagement ในยุคดิจิทัลที่บริษัทคุณเองก็สามารถทำได้
มองเห็นคุณค่าของผลงานที่ทำ
ระบบการทำงานแบบ Work From Home ที่กลายเป็นรูปแบบการทำงานในยุคใหม่หลัง New Normal สร้างระยะห่างระหว่างพนักงานกับบริษัท แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนงานที่พนักงานแต่ละคนได้รับมอบหมายก็ไม่ได้ลดน้อยตามลงไปด้วย บ่อยครั้งจึงอาจกิดเป็นเหตุการณ์ปิดทองหลังพระ ทำงานไปมากเท่าไร แต่ก็ไม่มีใครรับรู้ จนพนักงานบางคนอาจเริ่มสงสัยถึงการมีอยู่ของตัวเองในบริษัทสุดท้ายก็อาจจะตัดสินใจลาออกไปเพราะคิดว่าบริษัทไม่เห็นคุณค่าความสำคัญของตนเอง อย่าปล่อยให้พนักงานของคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น อาจสร้างแพลตฟอร์มบางอย่างที่ทำให้พนักงานของคุณได้รู้ว่าบริษัทให้ความสำคัญกับพวกเขาและเล็งเห็นถึงคุณค่าของผลงานของพวกเขาอยู่เสมอ
เทรนนิ่งอัปสกิล พร้อมรับโลกอนาคต
พนักงานแต่ละคนต่างมีทักษะอันโดดเด่นเฉพาะตัว องค์ประกอบทางด้านคุณสมบัติที่พวกเขามีอยู่แต่เดิมอาจช่วยผลักดันให้พวกเขาก้าวสู่ความสำเร็จในแบบของตนเองได้อีกขั้น หากได้รับการเทรนที่เหมาะสม การจัดเทรนนิ่งเพื่อฝึกทักษะ Soft Skill เป็นสิ่งที่องค์กรสามารถจัดให้มีได้ ถือเป็นการลงุทนในบุคคลที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้พนักงานของคุณแล้ว ยังผลักดันสู่ความสำเร็จของบริษัทในองค์รวมอีกด้วย
Virtual Activity สร้างสัมพันธ์ผ่านโลกเสมือนจริง
ทีมเวิร์ค ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า การพัฒนาความสัมพันธ์ของคนในทีมจึงเป็นเรื่องที่องค์กรไม่ควรละเลยมองข้ามเป็นอันขาด ในยุคที่ทุกอย่างถูกเปลี่ยนให้มาอยู่ในรูปแบบออนไลน์เช่นนี้ การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ผ่านโลกเสมือนจริง ก็เป็นไอเดียที่ฟังดูสมเหตุสมผลทั้งยังสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง ลองจัดกิจกรรม Team Building แบบ Virtual เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานของคุณได้มาทำความรู้จักและใช้เวลาร่วมกัน หรืออาจสร้างเป็น Virtual Community เล็กๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในองค์กรเอาไว้
นอกเหนือจากการสร้าง Employee Engagement แล้ว อย่าลืมที่จะจัดหาข้อมูล รวมไปถึงเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของพนักงาน และเพื่อให้พนักงานของคุณสามารถเข้าถึงกิจกรรมสร้างทีมเวิร์คของบริษัทได้อย่างง่ายดาย
Comments